วันที่ 6 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวนาสุพรรณบุรี สุดทนขาดน้ำทำนา รอน้ำไม่ไหวข้าวกำลังออกรวง ยอมกัดฟันซื้อน้ำทำนากว่า 50 เที่ยวรถเพื่อช่วยเหลือข้าวที่กำลังจะให้ผลผลิต ขณะผู้ประกอบการคิดราคาน้ำคันรถละกว่า 1 พันบาท ชาวบ้านหวั่นผู้ประกอบการจะฉวยโอกาสขึ้นราคาน้ำในช่วงที่เกษตรกรกำลังขาดน้ำทำการเกษตรอย่างหนัก นายวัชรินทร์ เกิดเอี่ยม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าอีกไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้านี้ต้นไม้จะยืนต้นตายกันทั้งหมดเนื่องจากขาดน้ำทำการเกษตร ชาวนาที่ทำนาข้าวใกล้เก็บเกี่ยวก็ทยอยซื้อน้ำเพื่อมารักษาชีวิตข้าวเหมือนต่ออายุข้าวให้ออกรวงและเก็บเกี่ยวได้ ในราคาคันรถละ 1,200 บาท ซึ่งมีเกษตรกรชาวนารายหนึ่งที่หมู่ที่ 7 ตำบลตลิ่งชัน ทำนา 22 ไร่ ซื้อน้ำมาแล้วกว่า 50 เที่ยวรถ เพื่อนำน้ำมาช่วยเหลือต้นข้าวเพราะข้าวเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนข้าวที่ยังเล็กชาวนาก็ต้อยอมสละตัดใจทิ้งเพราะไม่มีทางช่วยเหลือข้าวไว้ได้ซึ่งซื้อน้ำก็ไม่คุ้มทุน และเกษตรกรชาวสวนมะม่วงที่กำลังได้รับผลกระทบขณะนี้ต้นไม้กำยังยืนโศก กำลังจะยืนต้นตายถ้าอีกไม่ถึง 1 เดือนถ้าไม่มีน้ำมาเกษตรกรกว่า 93 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 740 ไร่ในพื้นที่ตำบลตลิ่งชันก็จะแย่ แย่ และก็แย่ ส่วนพื้นที่ปลูกไม้ผลในพื้นที่อำเภอเมือง 1,781 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกไม้ผลกว่า 3 หมื่นไร่ก็กำลังจะทยอยยืนต้นตายเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ชาวสวนยังพอมีน้ำในท้องร่องสวนและเกษตรกรบางคนเตรียมซื้อน้ำเพื่อมาทำสวนแล้วเพื่อหาทางออกเพื่อช่วยตัวเองแล้วในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้มีกลุ่มชาวนาและผู้ประกอบการมีการบริการสูบน้ำในราคาชั่วโมงละ 90 บาทต่อ 1 เครื่องเพื่อสูบน้ำเขานาและมีผู้ประกอบการขนน้ำไปจำหน่ายให้แก่ชาวนาชาวสวนในราคาตั้งแต่ 1 พันบาท จนถึง 2 พันบาท ชาวบ้านหวั่นว่าจะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงที่ชาวนาและสวนต้องการน้ำอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลบริหารจัดการเพื่อลดความเลื่อมล้ำทางสังคม