นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการ ศอฉ. พร้อมทีมทนาย เดินทางเข้าพบนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับทราบข้อหาในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการ ศอฉ. ผู้ต้องหาที่ 1-2 ร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,83,84,90 และ 288 จากกรณีที่ศอฉ.มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการขอคืนพื้นที่ จากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ที่สำนักอำนวยการ สำนักงานคดีพิเศษ (ชั้น 10) สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก   Democrat Party leader Abhisit Vejjajiva and  MP Suthep Thaugsuban arrive the Office of the Attorney-General (OAG) to acknowledge murder charges in connection with the crackdowns on red-shirt protesters in 2010.  ศาล รธน.ไม่รับคำร้องยุบ ปชป.ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณี สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำชุมนุม ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต สว.สรรหา ยื่นคำร้อง ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการชุมนุมของ สุเทพ เป็นการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน และเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ จึงยังไม่มีมูลกรณีที่เป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย