ตัวอาคารหอระฆัง มีลักษณะเป็นแบบอาคารโรมัน 3 ชั้น โดยชั้นดาดฟ้า จะมีพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิประดิษฐานอยู่ตรงกลาง ซึ่งใต้ฐานทำเป็นหอกลองขนาดใหญ่ ข้างขวาและข้างซ้ายพระพุทธรูป มีรูปปั้นพระอินทร์และพระพรหม นั่งพนมมือสักการะ อยู่บนหอระฆัง ซึ่งหอกลองและหอระฆังมีแท่นเสา 8 ต้น ปั้นเป็นรูปเทวดา ยืนอยู่บนบัวคว่ำบัวหงายทุกต้น ด้านหน้ามีรูปปั้นนางสุชาดา นั่งไหว้พระพุทธรูป และมีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ จุน้ำได้กว่า 100,000 ลิตร ทำเป็นจุดส่งน้ำประปาให้กับชาวบ้านในชุมชน ส่วนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ภายในมีการวาดภาพจิตกรรมฝาผนัง เกี่ยวกับพุทธประวัติ โดยรอบตัวอาคาร จะมีการปั้นเป็นรูปนางฟ้า เทวดา และพระแม่โพสพ ยืนอยู่จำนวนมาก และรั้วโดยรอบอาคาร จะมีรูปปั้นยักษ์สีเขียว ถือกระบองยืนอยู่นับร้อยตน ซึ่งมีการแต่งแต้มสีสันอย่างงดงามตระการตา  โดยรูปแบบในการก่อสร้างอาคารดังกล่าว มาจากแนวความคิดของ พระอธิการจำรัส อัตถกาโม เจ้าอาวาสวัดบ้านดงใหญ่ ซึ่งเล่าว่า หอระฆังแห่งนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2553 ออกแบบมาจากความคิดและจินตนาการของช่างพื้นบ้าน  ตัวอาคารมีขนาดความยาว 23 เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ทำวัตรสวดมนต์ สำหรับการก่อสร้างใช้ช่างปั้น ช่างปูนในพื้นที่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท Photo By PRASIT TANGPRASERT  --------------------------------------- Published caption:: Star attraction ... A European-style bell  tower building at Wat Dong Yai in tambon Dong Yai in Nakhon Ratchasima’s Phimai district. The temple spent more  than 10 million baht on this building, hoping to attract more visitors who make merit.  PRASIT TANGPRASERT