img-detail-photo

วันที่ 9 ส.ค.66 เวลา 12.35 น. ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับ 6 พรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเพื่อไทรวมพลัง, พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย โดยนำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวรเชษฐ์ พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยขัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการ พร้อมด้วยอีก 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) พรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพท. โดยนพ.ชลน่าน อ่านแถลงการณ์ว่า วันนี้พรรคพท.ได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคปช. พรรค สร. พรรค ชพก. พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า พรรคพท.และทุกพรรคการเมืองคาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง และเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤตความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งขั้ว การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคพท. และนายกรัฐมนตรีจากพรรคพท.เป็นแกนนำ เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็นวาระประเทศที่สำคัญอย่างสูงสุด “เราอยากขอวิงวอน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิฤตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทุกคน เราหวังจะเห็นความสามัคคีของทุกฝ่ายในประเทศ” นพ.ชลน่าน กล่าว ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชพก. กล่าวว่า วันนี้พรรคยินดีตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคพท.เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เหตุผลที่ตอบรับคำเชิญมี 5 ข้อ ดังนี้ 1.พรรคพท.ถือเป็นพรรคที่มีความชอบธรรม เป็นพรรคที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่สอง เมื่อพรรคอันดับที่หนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคพท. 2.พรรคพท.ยืนยันกับทุกพรรคการเมืองว่าขณะนี้รวบรวมเสียงของสส.ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก 3.วันนี้ที่ประชุมได้มีการพูดถึงอย่างชัดเจนว่าภายใต้การนำของพรรคพท.จะไม่มีนโยบายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า พรรคพท.มีความแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และ 5.เกือบ 3 เดือนนับแต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา เรามีรัฐบาลรักษาการแต่มีขีดจำกัดในการบริหารประเทศ ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจรอไม่ได้ ดังนั้นวันนี้จึงมีความจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศ นักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ และลดความกังวลใจของพี่น้องประชาชนภายในประเทศ การปล่อยให้เกิดสูญญากาศโดยไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะเกิดผลไม่ดี ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปช. กล่าวว่า พรรคปช.ได้ร่วมกับ 8 พรรคการเมืองเดิม ว่าเราจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมาที่มีการเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากในวันดังกล่าวมีการโหวต ทั้ง 8 พรรคเดิมจะโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท. ส่วนนี้คือหลักการ พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าวิกฤตขณะนี้เรื่องใหญ่คือหน้าที่สภาช่วงเปลี่ยนผ่าน เราต้องรับภารกิจของรัฐธรรมนูญที่การเห็นชอบแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราตกลง 8 พรรคเดิม จะเลือกพรรค พท.เป็นนายกรัฐมนตรี เราตระหนักว่าพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 มีความชอบธรรม ดังนั้น ภารกิจขณะนี้จึงต้องช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนพรรค พท. เป็นแกนนำในการรวมรวมเสียงให้ได้ 375 ขึ้นไป เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการสรรหาผู้มาเป็นรัฐมนตรี และแก้ปัญหาประเทศ “พรรคประชาชาติขอให้เดินทางไปถึงแค่พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่จะเป็นนายกฯ หากออกจากหลักการนี้ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า วันนี้ปัญหาประเทศเป็นสิ่งสำคัญจึงต้องมีนายกรัฐมนตรี จากนั้นตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีพิจารณา ฉะนั้น จึงยังไม่มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเลย ในส่วนนโยบาย พรรคปช.ยังแสดงจุดยืนในนโยบายต่างๆ โดยเชื่อว่าพรรคแกนนำคงรับฟังไปประกอบสำหรับอะไรที่เป็ยประโยชน์ต่อประเทศ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคสร. กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งพรรคก้าวไกลมีคะแนนเสียงอันดับ 1 เราก็ทำทุกอย่างสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้จัดตั้งรัฐบาล แต่ปรากฎว่าไม่สามารถเดินไปสู่จุดนั้นได้ ก็เปลี่ยนเป็นพรรค พท. ซึ่งเขากำลังทำทุกวิถีทางสลายขั้วการเมืองให้เดินหน้า จึงวิงวอนประชาชนที่ขณะนี้เกิดความเข้าใจผิดว่าตอนหาเสียงพูดแบบนั้นแบบนี้ จะเปลี่ยนแปลงหรือละเมิดไม่ได้ แต่การหาเสียงก็คือการหาเสียง เพื่อให้ได้คะแนนมาบริหารประเทศ ไม่ใช่นโยบายพรรค หากไม่ทำตามนโยบายแบบนั้นจึงจะผิดสัญญา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น การหาเสียงจึงเป็นเรื่องปกติ ได้คะแนนมาก็บริหารกันไป นอกจากนี้ ยังได้ยินเสียงบอกว่ารวมพรรคนั้นได้พรรคนี้ไม่ได้ ตนก็อยากขอให้ดูสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์ชาติไทย ถ้าฆ่าแม่ทัพตาย เราจะเอาไพร่พลไว้เลี้ยงดูหรือไม่ หรือจะฆ่าทิ้งให้หมด พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไปแล้ว ไม่มีแม่ทัพ ถามว่าเราควรเอาหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรเลี้ยงดูไว้ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม่ทัพอยู่ แต่ก็ยอมแพ้ เราควรเอาไพร่พลมาเลี้ยงดูหรือไม่ อยากขอให้ประชาชนเปิดใจให้กว้างเพื่อให้พรรค พท.จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ Published caption : More parties sign up  Pheu Thai Party leader Dr Cholnan Srikaew speaks yesterday at a press conference announcing that six small parties have joined the new government that it earlier pledged to form with the Bhumjaithai Party. 

Photo Descriptions FOR SALE

Title

"เพื่อไทย" นำ 6 พรรค ประกาศตั้งรัฐบาล มั่นใจ ได้เสียงโหวตเกินกึ่งหนึ่ง

Copyrights: License

Bangkok Post

Date of taking this photo

August 9, 2023