ความคืบหน้าการปรับปรุงท่าเทียบเรือท่าช้าง โดยมีกำหนดเเล้วเสร็จในช่วงเดือน พฤษภาคม 2564 ซึ่งรายละเอียดในการปรับปรุงท่าเทียบเรือมีดังนี้ 1.ก่อสร้างท่าเรือให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของท่าเรือให้มีความสะดวก และ ปลอดภัยเนื่องจากท่าเรือเดิมมีความคับเเคบ 2.ก่อสร้างอาคารศาลาพักคอยเพื่อรองรับผู้โดยสารทางน้ำ และ นักท่องเที่ยว 3.ก่อสร้างโป๊ะขนาด 6x12 ม. พร้อมสะพานปรับระดับจำนวน 4 โป๊ะ และ โป๊ะขนาด 5x10 ม.พร้อมสะพานปรับระดับจำนวน 2 โป๊ะ เพื่อรองรับ และ จัดระเบียบเรือชนิดต่าง ๆ ที่เข้าเทียบท่า 4ใก่อสร้างทางลาดและติดตั้งบล็อกนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตาให้เป็นไปตามกฏกระทรวงเพื่อรองรับการใช้งานของผู้พิการ ผู้สูงอายุ 5.ติดตั้งระบบภาพ และ เสียง พร้อมทั้งป้ายบอกทางภายใน และ ภายนอกอาคาร เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และ แนะนำการใช้บริการเรือโดยสารต่าง ๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีฯ และคณะตรวจติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าเทียบเรือโดยสารท่าเรือท่าช้าง และท่าเทเวศร์ที่ให้บริการเรือโดยสาร เรือข้ามฟากและเรือท่องเที่ยว โดยมี นายวรรณชัย บุตรทองดี ผู้อำนวยการกองวิศวกรรม รายงานผลการดำเนินงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เผยความคืบหน้า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 12,324 คน/วัน รองรับเที่ยวเรือ 394 เที่ยว/วัน ด้วยสภาพท่าเรือท่าช้างมีสภาพเก่าเนื่องจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ท่าเรือเดิมที่มีขนาดเล็กมีความแออัด ไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ กรมเจ้าท่าจึงได้ดำเนินการ ก่อสร้างอาคารพักคอย จำนวน 2 หลัง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับทัศนียภาพเขตเมืองกรุงเก่า เพิ่มขนาดพื้นที่ท่าเรือ 1,941 ตารางเมตร ติดตั้งโป๊ะขนาด 6×12 เมตร จำนวน 4 โป๊ะ และ 5×10 เมตร จำนวน 2 โป๊ะ เพื่อให้ท่าเรือมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ ขณะนี้งานปรับปรุงคืบหน้ากว่าร้อยละ 65 จากการติดตามท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ได้สั่งการเร่งรัดงานปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยในระหว่างดำเนินการให้ดูแลพื้นที่ก่อสร้างเพื่อความปลอดภัย ไม่กระทบผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเวลา โดยก่อนเปิดใช้ท่าเทียบเรือให้กรมเจ้าท่าจัดประชุมผู้ประกอบการเรือเพื่อวางแผนและกำหนดการใช้ท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลอดภัยและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนั้นท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ได้ลงเรือกรมเจ้าท่าไปยังท่าเรือเทเวศร์ ซึ่งท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเชื่อมต่อสถานีเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 4,329 คน/วัน รองรับจำนวนเที่ยวเรือ 267 เที่ยว/วัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารทั้งภายใน ภายนอก รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมห้องน้ำชาย หญิงและผู้พิการบนท่าเรือ ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 95 โดยกรมเจ้าท่าเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งให้ติดตั้งเครื่องหมายและป้ายบอกทางให้ชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เดินทางเชื่อมต่อสถานีเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม(ท่าเทียบเรือตลาดเทวราช) เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางแบบไร้รอยต่อตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าเรือทั้งสอง เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ร่วมกับเอกชน และการนำเทคโนโลยี Smart Pier ที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก สร้างวินัยการใช้จ่ายแบบ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ในการให้บริการต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ