พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่นัดหมายจัดการชุมนุมในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ บริเวณสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ว่า จากการติดตามข้อมูลทางการข่าวจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้ชุมนุมมาร่วมการชุมนุมจำนวนมากน้อยเท่าใด แต่ได้กำหนดจะใช้กำลังดูแลความสงบเรียบร้อยไปตามสถานการณ์จริง ทั้งนี้ ผบช.น. ยืนยันว่า การชุมนุมดังกล่าว ตำรวจยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งมีรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัดเจน เช่น หากเป็นการชุมนุมในพื้นที่เขตพระราชฐาน อยู่ในระดับใด ต้องมีแผนการปฏิบัติอย่างไร  ต้องมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมาย และขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานขออนุญาตจัดการชุมนุมจากทางแกนนำ จึงไม่ได้ประสานกำหนดเงื่อนไขใดๆ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างกับกลุ่มราษฎร ไปชุมนุมในพื้นที่ใกล้เคียง และเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเหมือนเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าจะใช้อำนาจเต็มที่ในการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงด้วยว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน บริเวณแยกเกียกกาย ตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลย และพยายามเข้าไประงับเหตุการณ์แล้ว โดยสังเกตได้ว่ามีรถตำรวจควบคุมฝูงชนที่นำไปใช้ระงับเหตุมีร่องรอยกระสุนปืนยิง  ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินคดีด้วย "ตำรวจไม่รู้สึกกังวลที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการประกาศยกระดับการชุมนุม เนื่องจากมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร พร้อมมีคำสั่งมาโดยตลอดห้ามตำรวจพกพาอาวุธในช่วงปฎิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุม"ผบช.น.กล่าว อย่างไรก็ตาม ผบช.น.ได้สรุปการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่างๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบัน โดยพบว่ามีการดำเนินคดีไปแล้ว 107 คดี ส่งให้อัยการพิจารณาไปแล้ว 24 สำนวน และในสัปดาห์นี้จะส่งให้อัยการพิจารณาอีก 9 สำนวน ส่วนเรื่องการออกหมายเรียกหรือหมายจับ แกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 17 -18 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.กล่าวว่า  ตำรวจเตรียมกำลังไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยรวม 9 กองร้อย 3 ผลัด ตลอด 24 ชั่วโมง และกองร้อยควบคุมฝูงชนหญิงอีก 1 กองร้อย เบื้องต้นมีการพูดคุยกับผู้บริหารสำนักงานทรัพย์สินฯแล้ว มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ดูความเรียบร้อยสถานทั่วไป เพราะบริเวณจุดดังกล่าว มีความละเอียดอ่อน ใกล้เขตพระราชฐาน และสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล ส่วนจะมีการปิดกั้นพื้นที่ 150 เมตรหรือไม่ อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์  เช่นเดียวกับการปิดการจราจร โดยจะมีการปิดถนน เท่าที่จำเป็น มีรายงานว่า ที่แนวกำแพงรั้วสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ถนนพิษณุโลก มีการนำลวดหนามมาวางขึงโดยรอบ ทั้งด้านถนนพิษณุโลก ถนนราชสีมา และถนนลูกหลวง นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องหมายจราจรของกรุงเทพมหานคร  โดยนำเสา และป้าย คำว่า เขตพระราชฐานมาติดตั้งด้านหน้าริมถนนพิษณุโลก 3 ป้าย และถนนลูกหลวงอีก  3 ป้าย ++++++++++++++++++ Published caption:: Razor wire is installed on the walls of the Crown Property Bureau on Phitsanulok Road as part of stepped-up security  ahead of a planned protest by pro-democracy demonstrators tomorrow. Arnun Chonmahatrakool