ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธีรศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น หรือ ทน. ลงพื้นที่ตรวจสอบรถราง หรือ รถแทรมน้อยที่ได้รับบริจาคมาจากเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น และได้มีการลำเลียงขนส่งมาที่ จ.ขอนแ่กน เป้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการนำมาติดตั้งไว้ที่บริเวณาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อให้ประชาชนได้บันทึกภาพประวัติศาสตร์และร่วมยินดีดับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นร่วมระหว่างประเทศ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายก ทน.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการสำรวจดูสภาพภายในรถแทรม ที่ได้รับบริจาคมานั้น ยังถือว่าสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้ ซึ่งเทศบาลฯ จะทำการเคลื่อนย้ายไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่นในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ทั้งนี้จากการประสานความร่วมมือร่วมกันกับ นายมัสซุมิ มัตซูอิ ( Ms. Kazumi Matsui ) นายกเทศมนตรีเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ในประเด็นเพิ่มเติมซึ่งได้รับข่าวดีว่าเมืองฮีโรชิม่า จะมอบรถแทรม ให้อีก 2 โบกี้ เพื่อให้ชาวขอนแก่นได้นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเมืองขอนแก่นในอนาคต " เป้าหมายที่คณะทำงานได้ดำเนินโครงการ ไปนั้น ประการแรกเพื่อใช้ประกอบหลักสูตรระบบราง เพื่อการศึกษาที่เรียนจากของจริง ซึ่งในประเทศไทยจะเรียนจากวีดีโอ หรือหนังสือเท่านั้น โดยจ.ขอนแก่นจะเป็นแห่งแรกที่ได้เรียนจากของจริง ในส่วนที่สองที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทำไมไม่เอารถใหม่มา เหตุผลสำคัญเพราะรถใหม่มีมูลค่าถึงคันละ 20 ล้านบาท ซึ่งหากจะลงทุนมาเพื่อการศึกษานั้นแน่นอนว่าไม่คุ้มค่า และในการนำมาศึกษาก็จะสามารถต่อยอดผลิตได้เอง และประการที่สาม รถคันนี้ไม่ได้นำมาแก้ไขปัญหาจราจร แต่นำมาให้นักศึกษาได้ใช้เรียน ทางคณะทำงานจึงได้ขอรับบริจาคมา โดยทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น จะได้ศึกษาออกแบบทำห้องแล็บเสมือนจริง รอบบึงแก่นนครระยะทาง 4 กม แต่ก่อนที่จะดำเนินการสร้างห้องแล็บนั้น จะต้องมีการสรุปผลการศึกษาการออกแบบรถรางพร้อมรางสรุปออกมา และทำประชาพิจารณ์ สอบถามพี่น้องประชาชนชาว จ.ขอนแก่นก่อน ว่าพี่น้องประชาชนชาว จ.ขอนแก่นตอบรับกับผลการศึกษาโครงการนี้หรือไม่ ในการทำห้องแล็บเสมือนจริงและรางรอบบึงแก่นนคร" นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า เทศบาลฯยังได้รับผลพลอยได้คือในเรื่องของกาส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความคุ้นเคยก่อนที่จะลงมือสร้างรถไฟฟ้ารางเบา หรือ LRT ในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นเส้นทางแรกของประเทศไทย ที่เป็นการก่อสร้างด้วยงบประมาณของคนขอนแก่น โดยไม่ได้ใช้งบประมาณหรือการสนับสนุนจากภาครัฐ ในเส้นทางรวม 22.6 กม. รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท เมื่อรถแทรมคันนี้ได้นำมาแล้วทดลองใช้จริงแล้ว ประชาชนก็จะได้เรียนรู้ว่ารถยนต์กับรถระบบรางจะใช้ควบคู่กันได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเทศบาลฯและคณะทำงานจะมีการประชุมอีกครั้งว่า หากเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงไม่ มีส่งผลกระทบกับตัวรถแทรม หรือส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา คณะทำงานก็จะจัดแสดงโชว์ต่อออกไปจนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ และจะย้ายไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่นทันที เพื่อดำเนินการศึกษา และอาจมีการประกอบรถแทรมคันใหม่ขึ้นมาเองได้อีก ซึ่งเป็นภาพแห่งอนาคตของคนขอนแก่น ที่จะสร้างรถราง และรางเอง ซึ่งจะมีผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ,อาชีพ,ภาพลักษณ์ และศักยภาพของคนขอนแก่นในภาพรวมอีกด้วย