การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 7 คดี ผู้ต้องหา 21 คน ของกลางยาบ้า 2,908,000 เม็ด ,น้ำมันกัญชารวม 57 ขวด น้ำหนักประมาณ 70.22 กิโลกรัม ยางกัญชา 6.623 กิโลกรัม , สารเคมี 3 ถัง , กัญชาแห้ง 600.3๖ กิโลกรัม ไอซ์ประมาณ 3,007.34 กรัม และยาอีจำนวน 6 เม็ด สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1, 4 และ 5 โดย นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 1, นายภิญโญ โฆษิต รรท.ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4 นายพรพัฒน์ สุวรรณภูมิ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมกันอำนวยการสืบสวนเร่งรัดผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 7 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 21 ราย ดังนี้ คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2561 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม กก.2 บก.ปส.1 นำโดย พ.ต.อ.ภวินทร์ภานุมาส ผกก.2 บก.ปส.1, พ.ต.ท.โชคชัย วระศาสตร์,พ.ต.ท.สุประวิณ สมบัติศิริ รอง ผกก.2 บก.ปส.1, พ.ต.ท.วรศักดิ์ รอดสัมฤทธิ์, พ.ต.ท.ชานุ พิมพ์หนู, พ.ต.ต.ราชวัติ ขลิบเงิน สว.กก.2 บก.ปส.1,พ.ต.ต.อัครพล สุวรรณทัตสว. ฝ่าย สกบ.บก.อก. ช่วยราชการ กก.๒ บก.ปส.๑ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.๒ บก.ปส.๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ๔ ราย ดังนี้ ๑. นายสุริยันต์ หรือยัน สุวรรณไชยรบ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5๕๐ /2561 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผู้ต้องหาที่ ๑ ๒. นายศุภกิจ หรือกิจ แก้วมะ อายุ ๕๔ ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 548 /2561 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผู้ต้องหาที่ ๒ ๓. นายโจเซฟ หรือ Sid ทรูเลย์ หรือ (Mr.JOSEPHTOOLE) อายุ ๖๗ ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 547 /2561 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผู้ต้องหาที่ ๓ ๔. นายคูลิค เดวิด หรือ (Mr.KULIK DAVID) อายุ ๖๕ ปี สัญชาติแคนาดา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 54๖/2561 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผู้ต้องหาที่ ๔ พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้ ๑. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำมันกัญชา) ลักษณะเป็นของเหลวสีดำ บรรจุอยู่ในขวดแก้วใส ฝาปิดสีฟ้า น้ำหนักประมาณ ๖๓ กรัม จำนวน ๑ ขวด, ลักษณะของเหลวสีดำ บรรจุอยู่ในขวดแก้วสีฟ้า ฝาปิดแบบจุกสีดำ น้ำหนักประมาณ ๖1 กรัม และลักษณะของเหลวสีดำ บรรจุอยู่ในขวดแก้วสีฟ้า ฝาปิดแบบจุกสีดำ น้ำหนักประมาณ ๖๒ กรัม จำนวน ๑ ขวด รวมจำนวนทั้งสิ้น จำนวน ๓ ขวด (ของกลางรายการ ๑) ของผู้ต้องหาที่ ๒ ๒. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ยางกัญชา) ลักษณะเป็นก้อนสีดำ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 322 กรัม ,น้ำหนักประมาณ 243 กรัม และ น้ำหนักประมาณ 58 กรัม รวมจำนวน ๓ ถุง ๓. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ลักษณะผงละเอียดอัดเป็นก้อน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 128 กรัม,น้ำหนักประมาณ 85 กรัม และ น้ำหนักประมาณ 27.5 กรัม รวมจำนวน ๓ ถุง ๔. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ลักษณะบดเป็นผงละเอียด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 23.9 กรัม รวมจำนวน ๑ ถุง ๕. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำมันกัญชา) ลักษณะเป็นของเหลวสีดำ บรรจุอยู่ในขวดแก้วใส ฝาปิดสีฟ้า น้ำหนักประมาณ 56 กรัม จำนวน ๑ ขวด 6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน ๑๓ เครื่อง ๗. เก้าอี้พลาสติกสีฟ้า ซึ่งซุกซ่อนของกลางรายการที่ 2-7 (ของกลางรายการที่ 8) ๘. รถยนต์โตโยต้า จำนวน ๒ คัน ๙. เครื่องมือในการผลิตน้ำมันกัญชา จำนวน 15 ชิ้นและภาชนะหลอดแก้วจำนวนหนึ่ง ๑๐. น้ำกัญชา บรรจุอยู่ในถังพลาสติกใสสีฟ้า จำนวน 3 ถัง ๑๑. น้ำมันกัญชา บรรจุอยู่ใน ขวดแก้วสีชา ปิดปากขวดด้วยฝาพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 10 ขวด ๑๒. น้ำมันกัญชา บรรจุอยู่ใน ขวดพลาสติกสีขาวขุ่น จำนวน 43 ขวด ๑๓. ยางกัญชา ลักษณะเป็นก้อน แบนยาว สีดำ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ซีลปากถุง จำนวน 2 แผ่น ๑๔. ตู้แช่เย็น จำนวน 1 ตู้ ๑๕. เครื่องอัดสุญญากาศ จำนวน ๒ เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชายางกัญชา และน้ำมันกัญชา ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ” วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ 1.จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 614 ม.1 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร เวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2561 2.จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 265/105 หมู่บ้านสิวลีรามคำแหง ถ.ราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 10.00 นของ วันที่ 3 ธันวาคม 2561 3. จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ทางเข้าโรงแรมเบเวอรี่ พลาซ่า ถนนพัทยาสาย 2 ตำบลพระตำหนัก เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ๔. จับกุมผู้ต้องหาที่ ๔ บริเวณทางเท้าริมถนนภายใน ซ.พระตำหนัก ๕ ฝั่งตรงข้าม แซนด์ คอนโดมิเนียม พัทยา อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรีเวลาประมาณ 1๔.๓๕น. ของ วันที่ 3 ธันวาคม2561 5. ตรวจพบของกลางรายการที่ ๒ – ๘ ภายในรถยนต์ของกลางรายการที่ ๙ อยู่บริเวณ ริมถนนภายในซอยพระตำหนัก 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เวลาประมาณ 14.40 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2561 6. ตรวจพบของกลางรายการที่ 21-28 ได้ที่ โกดัง เลขที่ 559/5 หมู่ 7 ถนนบางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ เวลาประมาณ 15.10 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2561 พฤติการณ์ในคดี สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.ปส.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มของผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ลักลอบผลิตน้ำมันกัญชาและส่งออกกัญชาไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งเมื่อ กันยายน 2561 การสืบสวนพบกลุ่มผู้ต้องสงสัย ได้มีการลักลอบส่งกัญชาไปยังต่างประเทศ จาก ท่าเรือแหลมฉบัง โดยการซุกซ่อนไป กับก้อนขุยมะพร้าวอัดก้อน ซึ่ง ถูกตรวจพบที่ เมือง แอนด์เวริด์ ประเทศเบลเยี่ยม ชุดสืบสวนสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับ กลุ่มผู้ต้องหาไว้ ซึ่งประกอบ ด้วย นายโจเซฟ ทูเล่ , นายเดวิส คูลิค , นายศุภกิจ แก้วมะ ,นายเกษมศักดิ์ ศรีมุกดา และนายสุริยันต์ สุวรรณไชยรบ ผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน การสืบสวน ติดตาม พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา น่าเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหา ได้ซุกซ่อนกัญชาหรือน้ำมันกัญชาหรือวัตถุดิบและอปุกรณ์ในการผลิตต่างๆ ไว้ที่โกดังเลขที่ 559/5 หมู่ 7 ถ.บางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ และโกดังเลขที่ 499/43 หมู่ 13 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ต่อมา บก.ปส.๑ จึงได้มีแผนปฏิบัติการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าจะมีการซุกซ่อนยาเสพติดดังกล่าว และสถานที่ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ได้มีการปฏิบัติการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามแผนปฏิบัติการ โดยมีการแบ่งกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดดังกล่าว ผลการปฏิบัติการ ตรวจค้นพบของ กลางยาเสพติด ยางกัญชา ,น้ำมันกัญชา สารเคมี และอุปกรณ์ในการผลิตต่างๆหลายรายการ ซุกซ่อนอยู่ภายใน โกดังเลขที่ 559/5 หมู่ 7ถ.บางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ และสามารถจับกุมผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้( ซึ่งออกหมายจับไว้จำนวน 4 คน) และทำการตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆที่ เกี่ยวข้องตัวผู้ต้องหาและบุคคลในเครือข่าย ไว้หลายรายการ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินคดี และอยู่ระหว่าง การสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลหาบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส. 3 บช.ปส., ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ ๑. นายสกุล นัยยะ หรือเหน่ง อายุ 42 ปี ที่อยู่ 187 หมู่ 10 ต.ทรายขาว อ.พาน จว.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ ๑ ๒. นายธานินทร์ ชนะกิจ หรือนิน อายุ 45 ปี ที่อยู่ 11 หมู่ 1 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จว.พังงา ผู้ต้องหาที่ ๒ พร้อมของกลาง 3 รายการคือ 1. ยาบ้า จำนวนประมาณ 780,000 เม็ด 2. รถยนต์ จำนวน 2 คัน 3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดย ผิดกฎหมาย” แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 เพิ่มเติม ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 26/2561 ลง 18 ม.ค.61 ในข้อหา“สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ” แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 เพิ่มเติม ตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ 54/2561 ลง 24 ส.ค.61 ในข้อหา“ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด), ศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 97/2561 ลง 17 ก.ย.61 ข้อหากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ครอบครองและเสพเมทแอมเฟตามีน)”, หมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ 63/2561 ลง 10 ต.ค.61 ข้อหา “มีพฤติการณ์หลบหนี (ให้จับจำเลยมารับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์)” พฤติการณ์แห่งคดี ตามแผนบูรณาการความร่วมมือในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ สำหรับคดีนี้หน่วยร่วมได้รับแจ้งข้อมูลผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องลักษณะเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.พาน จว.เชียงราย เครือข่าย กลุ่มนายเหน่งฯ กับพวก จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติการณ์ ต่อมาวันที่ 30 พ.ย.2561 เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนายเหน่งฯ จะทำการส่งมอบยาเสพติดจำนวนมากให้กับกลุ่มผู้ซื้อในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงเฝ้าติดตามสืบสวนสะกดรอยอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์คันทะเบียน กล-7757 เชียงราย และรถยนต์เก๋งคันทะเบียน กย-2505 เชียงราย จอดอยู่ริมถนนพหลโยธินสายเก่า หน้าร้านบ้านกรองน้ำ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พบ นายเหน่งฯ หรือ นายสกุลฯ และ นายโช หรือ นายโชติกิตต์ฯ ยืนคุยกันอยู่ระหว่างรถยนต์ทั้งสองคัน ลักษณะคอยสังเกตการณ์รอบบริเวณและรถยนต์อื่นๆที่อยู่ใกล้เหมือนคอยระวังป้องกัน และห่างไปเพียงเล็กน้อยพบรถยนต์คันทะเบียน กล-3473 เชียงราย จอดอยู่ในลักษณะเดียวกัน จึงกระจายกำลังกันเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบพิสูจน์ทราบบุคคลและรถยนต์ทั้งสามคัน โดยรถยนต์คันทะเบียน กล-3473 เชียงราย ไม่ผู้ใดอยู่ในรถยนต์ แต่พบของกลางยาเสพติดรายการที่ 1-4 ซุกซอนอยู่ภายในห้องโดยสาร และขณะเข้าตรวจสอบรถยนต์คันทะเบียน กย-2505 เชียงราย ของ นายโชติกิตต์ฯ ปรากฏว่า นายโชติกิตต์ฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนี ซึ่งมีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามไป ขณะเข้าแสดงตัวขอตรวจค้นรถยนต์คันทะเบียน กล-7757 เชียงราย ซึ่งมีผู้ต้องหาทั้งสองนั่งอยู่ในรถนั้น รถยนต์คันดังกล่าวได้ถอยหลังกระแทกชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ และพยายามหลบหนีออกจากบริเวณดังกล่าวเป็นเหตุให้ ด.ต.วิภู พานพิมพ์ ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์คันทะเบียน 2กบ-8988 กทม. ถูกขอบประตูด้านขวาฝั่งคนขับกระแทกบริเวณดวงตาด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถสกัดและจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี คดีที่ 3 เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 1๖.๓0 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส. 3 บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ๒ คน คือ 1. นายวงศกร ฉัตรหิรัญเลิศ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 รามคำแหง 36/1 แยก 3 รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาที่ ๑ 2. น.ส.อัมพริกา สิงห์ศิริ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/10 หมู่ 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ ๒ พร้อมของกลาง 4 รายการ คือ 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชาแห้ง) จำนวน ๑,๑๐๐ กรัม 2. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ ๗.๓๔ กรัม 3. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาอี) จำนวน ๖ เม็ด 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน ๒ เครื่อง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๕(กัญชา)โดยผิดกฎหมาย และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ ๑ เพิ่มเติมว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑(ไอซ์ และยาอี)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า มีการติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจากต่างประเทศ และได้ถูกส่งมาในกล่องพัสดุ ส่งมาจากประเทศอเมริกามายังผู้รับในประเทศผ่านทาง บริษัท เฟดเอ็กซ์ หมายเลขสินค้า ๗๘๔๐ ๙๒๘๖ ๗๗๖๐ จึงได้ไปขอตรวจสอบ และพบว่าภายในกล่องพัสดุดังกล่าวมีกัญชาแห้งจำนวน ๒ ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ ๑,๑๐๐ กรัม บรรจุอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดเป็นของกลาง และได้สืบหาตัวผู้รับกล่องพัสดุ โดยให้เจ้าหน้าที่เป็นพนักงานส่งพัสดุติดต่อไปยังผู้รับ ตามที่ระบุบนกล่อง ปลายสายรับเป็นหญิงแจ้งให้นำพัสดุส่งตามที่อยู่ที่ระบุบนกล่องพัสดุ ผู้รับติดต่อแจ้งให้ไปส่งที่คอนโดลุมพินีปาร์ค ถนนพระราม ๙ ต่อมาผู้ต้องหาที่ ๒ ได้ขับรถยนต์พาผู้ต้องหาที่ ๑ ไปที่อาคารชุดลุมพินีปาร์ค ถนนพระราม ๙ แล้วผู้ต้องหาที่ ๒ ลงจากรถและเดินไปติดต่อขอรับพัสดุจากพนักงานส่งพัสดุ และเซ็นชื่อรับพัสดุ แล้วนำกล่องพัสดุเข้าไปในร้านอาหารของคอนโดลุมพินีปาร์คฯ ผู้ต้องหาที่ ๑ ลงจากรถยนต์เข้าไปพบผู้ต้องหาที่ ๒ แล้วตรวจสอบกล่องพัสดุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เฝ้าสังเกตการณ์ดูอยู่ ได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม และได้ตรวจค้นพบไอซ์ และยาอี ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าของผู้ต้องหาที่ ๒ จึงได้ยึดทั้งหมดเป็นของกลาง แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ แล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย คดีที่ 4 เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ ๐๖.๔0 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ๕ คน คือ 1. นายสุทัศน์ แซ่เล้า อายุ 43 ปี ที่อยู่ 29 หมู่ที่ 18 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 1 2. นายนราทิพย์ แซ่ซ้ง อายุ 25 ปี ที่อยู่ 175 หมู่ที่ 5 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 2 3. นายชูเกียรติ แซ่เล้า อายุ 22 ปี ที่อยู่ 245 หมู่ที่ 9 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ผู้ต้องหาที่ 3 4. นายสุรเพชร แซ่ซ้ง อายุ 33 ปี ที่อยู่ 312 หมู่ที่ 5 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 4 5. นายอนุสรณ์ อนุชิตวรการ อายุ 15 ปี ที่อยู่ 90 หมู่ที่ 16 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 5 พร้อมของกลาง ๓ รายการ คือ 1. ยาบ้า จำนวนประมาณ ๑,๐๐๐,000 เม็ด 2. รถยนต์ จำนวน 2 คัน 3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน ๙ เครื่อง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับและหน่วยงาน ในพื้นที่ว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด มีพฤติการณ์ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงราย มาส่งมอบให้กับลูกค้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันที่ ๑ - ๒ ธันวาคม 2561 โดยใช้รถยนต์กระบะในการบรรทุกลำเลียง ยาเสพติด ใช้เส้นทาง จ.เชียงราย – พะเยา – ลำปาง – ตาก – กำแพงเพชร – นครสวรรค์ – ชัยนาท เข้าสู่พื้นที่ชั้นใน โดยหลบเลี่ยงด่านตรวจตามถนนสายหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวน สกัดกั้น จับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าว จนกระทั้งวันที่ 2 ธ.ค.2561 เวลา 0๖.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 และ ๒ ได้ที่บริเวณแยกไฟแดงป่าโมก ถนนสายอยุธยา – อ่างทอง ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จว.อ่างทอง และ สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ ๓ – ๕ ได้ที่ถนนสายอยุธยา – อ่างทอง หน้าวัดสระแก้ว ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จว.อ่างทอง เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2561 เวลา 0๖.๓0 – ๐๖.๔๐ น. โดยต่อเนื่องกัน จากนั้นได้ทำการขยายผลตรวจค้น และตรวจยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 02.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 4 คน คือ 1. นายวัฒนภรณ์ พันอุด อายุ 26 ปี ที่อยู่ 136 หมู่ที่ 6 ต.บ้านโคก อ.เมืองมุกดาหาร จว.มุกดาหาร ผู้ต้องหาที่ 1 2. นางศดานันท์ พันอุด อายุ 23 ปี ที่อยู่ 127 หมู่ที่ 04 ต.หนองเอี่ยน อ.คำชะอี จว.มุกดาหาร ผู้ต้องหาที่2 3. นายปฎิภัทร นามบุตร อายุ 17 ปี ที่อยู่ 127 หมู่ที่ 04 ต.หนองเอี่ยน อ.คำชะอี จว.มุกดาหาร ผู้ต้องหาที่ 3 4.นายสังกา เหล่าชัย อายุ 44 ปี ที่อยู่ 102 หมู่ที่ 03 ต.ดงมอน อ.เมืองมุกดาหาร จว.มุกดาหาร ผู้ต้องหาที่ 4 พร้อมของกลาง ๔ รายการ คือ 1. กัญชาแห้ง จำนวน 14 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 599 กิโลกรัม ๒. รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ๓. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง ๔. GPS ยี่ห้อ ZHEX จำนวน ๑ ตัว ข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดย ไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่ามีกลุ่มผู้ค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติด มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล โดยในวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2561 กลุ่มบุคคลดังกล่าว จะร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ จ.มุกดาหาร โดยจะใช้รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการดำเนินการลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้เส้นทาง จ.มุกดาหาร – ร้อยเอ็ด – มหาสารคาม – ขอนแก่น – ชัยภูมิ – นครราชสีมา – สระบุรี เข้าสู่พื้นที่ชั้นในโดยจะใช้เส้นทางหลบเลี่ยงด่านตรวจตามถนนสายหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวน สกัดกั้น จับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าว จนกระทั้งวันที่ 2 ธ.ค.2561 เวลา 02.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1-3 ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี และ สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณภายในห้องพัก หมายเลข 7 ไร่อรุณวิทย์ รีสอร์ท ที่อยู่ 32 ม.2 ถ.มวกเหล็ก-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2561 เวลา 02.50 น. โดยต่อเนื่องกันจากนั้นได้ ทำการขยายผลตรวจค้น และตรวจยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ คดีที่ 6 เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน 2561 เวลาประมาณ ๐๙.๔๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ๒ คน คือ 1. นายกฤษฎา แซ่ว่าง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/53/1 ม.9 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ตาก ผู้ต้องหาที่ ๑ 2. นายสาคร แซ่เฮ่อ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/87 ม.9 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ตาก ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมของกลาง 1. ยาบ้า จำนวนประมาณ 852,000 เม็ด 2. ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม 3. รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่ามีกลุ่มผู้ค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ จ.เชียงราย มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล โดยในวันที่ ๒๗ – 2๘ ธันวาคม 2561 กลุ่มบุคคลดังกล่าว จะร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ จ.เชียงราย โดยจะใช้รถยนต์กระบะบรรทุก เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการดำเนินการลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้เส้นทาง จ.เชียงราย – พะเยา – ลำปาง – จาก – กำแพงเพชร เข้าสู่พื้นที่ชั้นในโดยจะใช้เส้นทางหลบเลี่ยงด่านตรวจตามถนนสายหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวน สกัดกั้น จับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 2๘ ธ.ค.2561 เวลา 0๘.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ ๑ ได้ที่บริเวณลานจอดรถภายในโรงแรมบ้านสวนรีสอร์ท ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จว.ตาก และสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ ๒ ได้ที่บริเวณถนนพหลโยธินสายเก่า ติดรั้วด้านตะวันตกของโรงแรมบ้านสวนรีสอร์ทจากนั้นได้ ทำการขยายผลตรวจค้น และตรวจยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ คดีที่ 7 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 บช.ปส. ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ 1.นายอุเทน ศรพร้อม อายุ 25 ปี 2.นายเฉลิมพล โพธิอำพล อายุ 60 ปี พร้อมของกลาง จำนวน 8 รายการ ดังนี้ 1. ยาบ้าจำนวนประมาณ 276,000 เม็ด 2. รถยนต์ 2 คน 3. โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์ในคดีกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามี กลุ่มเครือข่ายนายเฉลิมพล โพธิอำพล มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนใน และพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทาง จว.บึงกาฬ - จว.สกลนคร- จว.อุดรธานี- จว.ขอนแก่น– จว.นครราชสีมา- จว.สระบุรี-กทม- ปลายทาง จว.สงขลา โดยกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว จะใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 2299 พัทลุง เป็นรถยนต์นำทาง ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ จึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางดังกล่าวข้างต้น จนพบรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กง 2299 พัทลุง วิ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีวิไล จว.บึงกาฬ และพบว่ามีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน ขท 8576 สงขลา วิ่งตามหลังและมุ่งหน้าตามเส้นทางเดียวกันโดยตลอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม และได้เข้า ทำการจับกุมและตรวจค้นรถยนต์หมายเลขทะเบียน กง 2299 พัทลุง พบนายเฉลิมพล โพธิอำพล เป็นผู้ขับขี่และ รับว่าตนเป็นรถยนต์สำรวจเส้นทางในการลำเลียงยาบ้าครั้งนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณให้รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขท 8576 สงขลา หยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับขี่รถยนต์พุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับ ความเสียหาย และขับขี่มุ่งหน้า ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จว.อุดรธานี เมื่อถึงบริเวณริมถนนโยธาธิการ เขตพื้นที่หมู่บ้านกุดจิก ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จว.อุดรธานี บุคคลในรถยนต์ได้นำสิ่งของเป็นกระสอบปุ๋ย จำนวน 2 กระสอบ ทิ้งไว้ ป่าอ้อยข้างทาง และได้ขับรถหลบหนีออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ พบเป็นกระสอบอาหารสัตว์สองถุง ภายในบรรจุยาเสพติด(ยาบ้า) และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดได้ติดตาม จนพบรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับขี่เข้าไปในบริเวณ ป่าอ้อยข้างทาง และบุคคลในรถได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอุเทน ศรพร้อม ไว้ได้ ส่วนอีกคนหนึ่งอาศัยป่าอ้อยซึ่งรกทึบ หลบหนีการจับกุมไปได้ และนายอุเทนฯ ยอมรับว่าได้ร่วมกับบุคคล ซึ่งหลบหนีไปได้ ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขท 8576 สงขลา ลำเลียงยาบ้าเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าจริง ทั้งนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.2 ดำเนินคดีต่อไป ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หลักสี่ กรุงเทพมหานคร Published caption : A haul of drugs and their precursors are displayed at a news conference held at the Narcotics Suppression Bureau yesterday. Officers announced the recent arrest of 21 people allegedly linked with seven drug cases.
Title
Copyrights: License
Date of taking this photo