09.00 น. ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกานัดที่ 3 คดีนักรบศรีวิชัย การ์ดพันธมิตรฯ -ผู้ร่วมชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯบุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเมื่อปี 2551 ซึ่งมีจำเลยทั้งสิ้น 85 ราย เลื่อนอ่านฎีกาอีกรอบ 3 ศาลออกหมายจับ "แนวร่วม พธม." เบี้ยวฟังฎีกาคดีนักรบศรีวิชัยการ์ด พธม.บุกเอ็นบีที กำชับจำเลย 82 คน ให้มาครบนัดหน้า พร้อมอ่านฎีการอบ 4 เช้า 21 ก.พ.ปีหน้า หลังออกหมายจับจำเลยที่ 78 แนวร่วมไม่มาศาล ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 12 ต.ค.60 เวลา 09.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาครั้งที่ 3 คดีหมายเลขดำ อ.4486/2551 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธเนศร์ คำชุม กับพวกซึ่งเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ด พธม. , นายนนัสเซอร์ ยี หมะ อดีตหัวหน้าการ์ด คปท. และกลุ่มผู้ชุมนุม รวม 85 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปหรือซ่อนตัวในเคหสถาน หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210, 215, 309, 358, 364, 365, 371 , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ,พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2545 และพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2535 ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 พ.ย.51 โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 22-25 ส.ค.51 จำเลยทั้ง 82 คนกับอีก 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานี NBT พร้อมพกอาวุธจำนวนมาก จากนั้นจำเลยได้ร่วมกันทำลายทรัพย์สินรวมค่าเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของทางราชการ โดยจำเลยที่ 1 มีเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่จำเลยที่ 39 , 80 มีใบกระท่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 รวมจำนวน 18 ใบไว้ในครอบครองจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ขณะที่ระหว่างพิจารณา "นายมานิต อรรถรัฐ" จำเลยที่ 42 หลบหนีคดี ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารระบบความชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวมา โดยการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกานั้น เคยถูกเลื่อนนัดมาแล้วถึง 2 ครั้งจากวันที่ 25 ส.ค.และวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนายสุรสิทธิ์ แย้มประชา จำเลยที่ 36 อ้างว่าเข้าใจวันนัดฟังคำพิพากษาผิด , นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ จำเลยที่ 37 มีอาการป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ แต่เนื่องจากศาลไม่เชื่อว่ามีอาการป่วยขนาดไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงให้ออกหมายจับและสั่งปรับนายประกันไว้เต็มจำนวน 200,000 บาท , นายสุรเดช วราภรณ์ จำเลยที่ 49 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำฯ แต่วันนัดมีปัญหาที่ไม่ได้เบิกตัวมาศาลและนายวันชัย รักษายศ จำเลยที่ 78 ปรากฏว่าไม่สามารถส่งหมายนัดจำเลยได้ตามที่อยู่ปัจจุบัน เนื่องจากบ้านพักมีการรื้อถอนแล้ว และยังไม่สามารถติดต่อตัวจำเลยได้ ศาลจึงให้ทำการปิดหมายแจ้งให้จำเลยทราบ ขณะที่วันนี้ จำเลยเดินทางมาศาล รวม 82 ราย พร้อมกับญาติหลายสิบคน โดยจำเลยส่วนใหญ่ได้รับการประกันตัวระหว่างยื่นฎีกาสู้คดี โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดและกรมธรรม์ประกันชีวิตคนละ 200,000 บาท อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัด ศาลเรียกขานรายชื่อจำเลยที่มาศาลแล้วในวันนี้ ปรากฏว่า มีจำเลยเดินทางมาศาล 82 โดยนายประเสริฐ ด้วงทิพย์ จำเลยที่ 37 มีอาการป่วยเป็นเส้นเลือดในสมอง ก็ยังคงไม่ได้เดินทางมาศาลเช่นเดิมเหมือนนัดที่แล้ว และนายวันชัย รักษายศ จำเลยที่ 78 ที่การนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มาศาล หลังจาก ศาลเพิ่งส่งหมายใหม่ให้นายวันชัยทราบด้วยการปิดประกาศไว้ที่หน้าศาล เนื่องจากที่พักของนายวันชัยได้มีการรื้อถอนไป แต่ในวันนี้ก็ปรากฏว่ายังไม่สามารถติดต่อนายวันชัยจำเลยที่ 78 ได้ ศาลจึงแจ้งให้คู่ความในวันนี้ทราบด้วยว่า หากใครติดต่อนายวันชัยได้ให้แจ้งทราบด้วย โดยศาลจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนก่อนในการออกหมายจับนายวันชัย จำเลยที่ 78 เนื่องจากวันนี้ไม่ได้มาศาลตามนัด โดยศาลให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาครั้งที่ 3 ออกไปก่อน และนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาครั้งที่ 4 ในวันที่ 21 ก.พ.61 เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้จำเลยทุกคนมาศาลให้ครบเพื่อพร้อมอ่านคำพิพากษา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.53 ให้จำคุกนายธเนศร์ คำชุม จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 18 เดือน , นายชนินทร์ อินทร์พรหม จำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี 6 เดือนและปรับ 500 บาท ส่วนจำเลยที่ 3-29 , 31-38 ,40,41,43-46 ,48-79 , 82 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน , นายเมธี อู่ทอง จำเลยที่ 24 จำคุก 1 ปี 12 เดือน และนายจรัส วีระพันธ์ จำเลยที่ 39 กับนายธนพล แก้วเชิด ที่ 80 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือนและปรับ 500 บาท และจำเลยที่ 30, 47 , 81 จำคุกคนละ 12 เดือน ส่วนจำเลยที่ 83-85 จำคุกคนละ 9 เดือน ซึ่งระหว่างกระทำผิดจำเลยที่ 30 ,47 ,81 อายุยังไม่เกิน 20 ปี และจำเลยที่ 83-85 ยังเป็นเยาวชน และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงเห็นควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลย30 ,47,81,83,84,85 มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดเวลา 1 ปี ต่อมาโจทก์ – จำเลย ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 17 พ.ย.57 เห็นว่าการกระทำของจำเลยถือเป็นการกระทำกรรมเดียวต่อเนื่องกันซึ่งผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษบทหนักสุดฐานบุกรุกที่แม้โจทก์จะไม่ได้ฟ้องความผิดดังกล่าว แต่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจนำมาวินิจฉัยได้ตามกฎหมาย จึงพิพากษาแก้ปรับบทลงโทษและอัตราโทษใหม่เป็นว่า ให้จำคุกนายธเนศร์ คำชุม จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 เดือน ,นายเมธี อู่ทอง จำเลยที่ 24 จำคุก 8 เดือน ,จำเลยที่ 2-23, 25-29 , 31-41 , 43– 46 , 48 - 80 ,82 จำคุกคนละ 6 เดือนและเมื่อรวมโทษปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นายชนินทร์ อินทร์พรหม จำเลยที่ 2 ,นายจรัส วีระพันธ์ จำเลยที่ 39 กับนายธนพล แก้วเชิด ที่ 80 จึงเป็นจำคุกคนละ 6 เดือนและปรับ 500 บาท ส่วนนายอัมรินทร์ ยี่เฮง จำเลยที่ 48 ให้บวกโทษคดีอื่นกับคดีนี้จึงเป็นจำคุก 9 เดือน และนายประดิษฐ์ คงช่วย จำเลยที่ 70 ก็เช่นกันจึงจำคุกทั้งสิ้น 8 เดือน สำหรับจำเลยที่ 30 ,47,81 จำคุกคนละ 4 เดือน , จำเลยที่ 83-85 จำคุกคนละ 3 เดือนขณะกระทำผิดทั้งหกเป็นเยาวชน จึงเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ ส่วนความผิดฐานซ่องโจรนั้นให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับจำเลยทั้ง 85 คนประกอบด้วย 1.นายธเนศร์ คำชุม 2.นายชนินทร์ อินทร์พรหม 3.นายสุธรรม จันทร์วงษ์ 4.นายสัญญา สุขเกื้อ 5.นายจำแลง คุ้มสังข์ 6.นายปัญญาเดช เอกภาณุพัตร์ 7.นายมนตรี แซ่ลิ้ม 8.นานสมถวิล แซ่เอี้ย 9.นายวุฒิชัย ช่วยบุยชู 10.นายมนัส สีสายหูด 11.นายยุทธนา โอชาพงค์ 12.นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ 13.นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ 14.นายนนัสเซอร์ ยี หมะ อดีตหัวหน้าการ์ด คปท. 15.นายสุรชัย สุทธิวรานนท์ 16.นายชัชวาล จันชนะพล 17.นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย 18.นายสหัส ทองวิจิตร 19.นายบัญชา ดีบรรจง 20.นายเฉลิม โลกภิบาล 21.นายวิชาญ หยะอัด 22.นายทรงวุฒิ จุลษร 23.นายกิตติกร ขุนศรี 24.นายเมธี อู่ทอง 25.นายธีรพร ชูเมือง 26.นายสมเกียรติ รัตนพันธ์ 27.นายนพดล เอี่ยมอุดม 28.นายศุภชัย สมทอง 29.นายบุญฤทธิ์ เชิญทอง 30.นายคฑาวุธ ชูศรี 31.นายจีรวัฒน์ คงหนู 32.นายพิเชษฐ์ ด้วงช่วย 33.นายวิเชียร เขียวเล็ก 34.นายสุรินทร์ แก้วหัวไทร 35.น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง 36.นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา 37.นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ 38.นายดำรงศักดิ์ จันทพันธ์ 39.นายจรัส วีระพันธ์ 40.นายอำนวย เพชรเส้ง 41.นายจรัญ หนูสังข์ 42.นายมานิต อรรถรัฐ 43.นายสมโชค จันทร์แก้ว 44.นายประสงค์ ตรัยรัตน์ 45.น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ 46.นายกฤษฎา มณีพรหม 47.นายศตวรรษ จอนทอง 48.นายอัมรินทร์ ยี่เฮง 49.นายสุรเดช วราภรณ์ 50.นายสาโรจน์ ดุลยคง 51.นายภิชัย ทองนวล 52.นายปราโมทย์ พุทธขาว 53.นายประจิตร นุ่นหอม 54.น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ 55.นายอดิลักษณ์ อนุชาติ 56.นายคำรณย์ อู้สกุลวัฒนา 57.นายธัชชัย ทองจิตร 58.นายนพดล ขาวเรือง 59.นายวีระศักดิ์ บรรจงช่วย 60.นายรอย บุญนิล 61.นายสุนทร รักษายศ 62.นายประสิทธิ์ มากแก้ว 63.นายพรชัย บรรจงช่วย 64.นายคมชิต พุฒดำ 65.นายสมพงศ์ สารมาศ 66.นายณรงค์ บัวใหญ่ 67.นายเดโช มะลิลา 68.นายกะวี ยิ้มละไม 69 น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ 70.นายประดิษฐ์ คงช่วย 71.นายวุฒธิไกร สังข์แก้ว 72.นายวิเชษฐ์ คงจันทร์ 73.นายอำไพ สิริชยานนท์ 74.นายสุริยา สกุณา 75.นายสุนทร สุวรรณ 76.นายสุเทพ สุวรรณ 77.วิชัย อินทร์พรหม 78.นายวันชัย รักษายศ 79.ไพศาล สุขแก้ว 80.นายธนพล แก้วเชิด 81.นายสุธี จันทวงศ์ 82.นายสมเกียรติ หนูใหญ่ 83.นายวรานนท์ สุวรรณชาตรี 84.นายวิธวัช สืบกระพันธ์ 85.นายสมเกียรติ ดวงมณี
Title
Copyrights: License
Date of taking this photo