img-detail-photo

เมื่อวันที่ 7กันยายน2559 ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ศาลปกครองกลางได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ ที่ ส. 58/ 2555หมายเลขแดงที่ ส.660/2559 ระหว่างนายคออี้ มีมิ นายแจ พุกาด นายหมี หรือกิตา ต้นน้ำเพชร นายบุญชู พุกาด นายกื้อ พุกาด และนายดูอู้ จีโบ้ง ผู้ฟ้องคดี กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยศาลได้พิจารณาคดีสรุปความได้ว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ นั้นเป็นไปตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ซึ่งสามารถกระทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างในเขตป่าดงดิบและอุทยานฯ ได้ และถือได้ว่าผู้ฟ้องเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ กรณีนี้ไม่ถือว่าละเมิดสิทธิของผู้ฟ้อง สำหรับกรณีการอ้างการอยู่อาศัยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ปี 2553เรื่องฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงที่ผู้ฟ้องอ้างว่าอยู่ในชุมชนดั้งเดิมนั้น ไม่อาจเรียกร้องได้ เพราะชุมชนที่ผู้ฟ้องอาศัยอยู่ (บางกลอยบน) เป็นการบุกรุกแผ้วถางป่าดงดิบ และผู้ฟ้องไม่ยอมอาศัยอยู่และทำกินในพื้นที่ซึ่งรัฐกำหนดให้ การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่หรือผู้ถูกฟ้องจึงไม่ถือเป็นการทำเกินกฎหมายกำหนด ทั้งนี้ศาลเห็นว่าการเผาและทำลายทรัพย์สิน ของใช้ประจำวัน (เช่น หม้อข้าวและอุปกรณ์หากินอื่น) รวมทั้งเผาของใช้ส่วนตัว ถือว่าทำเกินกว่ากฎหมายกำหนดและกรมอุทยานฯ ผิดข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ เนื่องจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างนั้น สามารถเก็บทรัพย์สินของใช้ส่วนตัวไว้ก่อนแล้วค่อยประกาศคืนแต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำ ศาลจึงได้ประเมินทรัพย์สินแล้วให้ผู้ถูกฟ้องจ่ายค่าชดเชยแค่ผู้เสียหายเป็นรายละ 10,000 บาท แบ่งเป็นค่าชดเชยทรัพย์สินส่วนตัวและค่าชดเชยทรัพย์สิน อุปกรณ์ทำกินและจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างละ 5,000 บาท A group of Karen villagers hear the Central Administrative Court’s ruling in relation to araid by park authorities in which shelters belonging to the ethnic minority in a protected forest were burned.Tanaphon Ongarttrakul

Photo Descriptions FOR SALE

Title

ศาลปกครองกลางนัดกะเหรี่ยงบางกลอยฟังคำพิพากษา

Copyrights: License

BANGKOK POST

Date of taking this photo

September 7, 2016